วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หน่วยกิตที่4 สร้างสรรค์เว็บเพจด้วย Dreamwaever

โปรแกรม Macromedia Dreamweaver โปรแกรมสำหรับการสร้างเว็บเพจ บริหารจัดการเว็บไซต์ รวมไปถึงการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน เนื่องจากตัว Dreamweaver มีความสามารถที่โดดเด่น ดังนี้ สามารถเขียนโปรแกรมสำหรับเว็บได้ทุกรูปแบบ เช่น ASP, ASP.Net, ColdFusion,JSP, PHP, XML, XHTML เมนูคำสั่งและเครื่องมือต่างๆ เรียกใช้งานได้ง่ายและสะดวกมีการปรับปรุงกลไกภายในให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถสร้างแอปพลิเคชันง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรม สร้างเว็บเพจภาษาไทยได้ทันทีโดยไม่ต้องติดต้องโปรแกรมเสริมเพราะ Dreamweaver รอง



การเข้าสู่โปรแกรม Macromedia Dreamweaver
มีขั้นตอน คือ คลิกเลือก Start -> Program -> Macromedia -> Macromedia Dreamweaver 8 ในการเข้าสู่ระบบในครั้งแรกโปรแกรมจะถามรูปแบบการใช้งาน 2 รูปแบบ คือ
1. Designer หมายถึง การสร้างและออกแบบเว็บเพจโดยทั่วไป ส่วนมากนิยมเลือกรูปแบบนี้

2. Code หมายถึง วิธีการสร้างเว็บเพจที่เน้นการเขียนชุดคำสั่งเอง
เริ่มต้นการใช้งานโปรแกรม Dreamweaver MX



1. คลิกที่ปุ่ม start

2. เลื่อนเมาส์ไปที่ Program

3. เลื่อนเมาส์ไปที่คลิกเลือกเมนู Macromedia

4. เลื่อนเมาส์ไปที่คลิกเลือกคำสั่ง Macromedia Dreamweaver Mx เพื่อเรียกใช้โปรแกรม จะเห็นโปรแกรม ดังรูป

หน้าต่างเว็บเพจ (Document Window)



ส่วนของหน้าต่างการทำงานของ Dreamweaver MX สามารถเลือกหน้าต่างการทำงานได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

Show Code View : เป็นหน้าต่างที่ให้แสดงเฉพาะโค้ด HTML ของหน้าเว็บเพจที่เรากำลังทำงานอยู่




Show Code and Design View : เป็นหน้าที่แสดงทั้งโค้ด HTML และหน้าเว็บเพจ ที่เรากำลังทำงานอยู่

Show Design View : ให้แสดงแต่หน้าเว็บเพจปกติไม่ต้องแสดงโค้ด HTMl

Live Data View
เป็นหน้าต่างที่ใช้ดูผลลัพธ์การนำข้อมูลจากฐานข้อมูลมาแสดงบนเว็บเพจ
การเซฟหน้าเว็บเพจ
หลักจากที่สร้างเว็บเพจได้ตามต้องการแล้ว ให้ทำการเซฟไฟล์ โดยมีคำสั่งที่เลือกใช้ได้ ดังนี้
File > Save เป็นการเซฟไฟล์ในชื่อเดิม
File > Save As เ ป็นการเซฟไฟล์ในชื่อใหม่
File > Save As Template เป็นการเซฟไฟล์เป็นเทมเพลต
File > Save All เป็นการเซฟไฟล์ทั้งหมดที่มีการเปลี่ยนแปลง




หน่วยกิตที่3 นำเสนองานด้วยโปรมแกรม Microsoft power point

การจัดเก็บ Slide
การบันทึกเอกสารเก่าที่เคยบันทึกแล้ว
คลิกเลือกที่เมนู แฟ้ม (File) ----->บันทึก (Save) เท่านี้เอกสารก็จะถูกบันทึกแล้ว



หรือ เลือกปุ่ม ในส่วนของ Tool Bar หรือกด Ctrl+S บนคีย์บอร์ด

การบันทึกเอกสารใหม่ที่ไม่เคยบันทึก
คลิกเลือกที่เมนู แฟ้ม (File) ----->บันทึก (Save) จะปรากฏไดอะล็๊อกบ็อก บันทึก (Save)






เลือกตำแหน่งที่ต้องการบันทึกไฟล์เอกสารไว้






ใส่ชื่อไฟล์เอกสารที่ต้องการแล้วคลิก บันทึก เท่านี้เอกสารก็จะถูกบันทึกเก็บเอาไว้
หรือ เลือกปุ่ม ในส่วนของ Tool Bar หรือกด Ctrl+S บนคีย์บอร์ด

หน่วยกิตที่3 นำเสนองานด้วยโปรมแกรม Microsoft power point

การตั้งค่าการนำเสนอ

1. เลือกที่แถบเมนู นำเสนอภาพนิ่ง ---> นำเสนอภาพนิ่ง

2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกขึ้น





3. ทำการคลิกเลือก ลักษณะพิเศษ แล้วเลือกรูปแบบของการเปลี่ยนหน้าการทำงานตามต้องการ

4. สามารถกำหนดให้การแสดงวัตถุเป็นไปโดยอัตโนมัติได้ โดยกำหนดตรง เลื่อนภาพนิ่ง

5. สามารถใส่เสียงระหว่างการเปลี่ยนภาพนิ่งได้

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หนาวยกิตที่3 นำเสนองานด้วยโปรมแกรม Microsoft power point

การใช้ต้นแบบภาพนิ่ง
ต้นแบบภาพนิ่ง
PowerPoint มาพร้อมกับภาพนิ่งชนิดพิเศษที่เรียกว่าต้นแบบภาพนิ่ง ต้นแบบภาพนิ่งนี้จะควบคุมลักษณะของข้อความบางอย่าง เช่น ชนิดของแบบอักษร ขนาด และสี ซึ่งถูกเรียกว่า "ต้นแบบข้อความ" และยังรวมถึงสีพื้นหลังและลักษณะพิเศษบางอย่างอีกด้วย เช่น เงา และลักษณะรายการสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย ต้นแบบภาพนิ่งจะมีตัวยึดข้อความและตัวยึดท้ายกระดาษ เช่น วันที่ เวลา และจำนวนภาพนิ่งบรรจุอยู่ เมื่อเราต้องการทำการเปลี่ยนแปลงแบบส่วนรวมไปยังหน้าตาของภาพนิ่งของเรา เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงภาพนิ่งแต่ละภาพทีละภาพ เราเพียงแต่ทำการเปลี่ยนแปลงแค่ครั้งเดียวบนต้นแบบภาพนิ่งเท่านั้นแล้ว PowerPoint จะปรับปรุงภาพนิ่งที่มีอยู่และนำการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไปใช้กับภาพนิ่งใหม่ใดๆ ที่เราเพิ่มเข้าไปโดยอัตโนมัติ เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบของข้อความ ให้เลือกข้อความในตัวยึดข้อความและทำการเปลี่ยนแปลงตามที่เราต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเปลี่ยนสีของตัวยึดข้อความเป็นสีฟ้า ข้อความบนภาพนิ่งที่มีอยู่และภาพนิ่งใหม่จะถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าโดยอัตโนมัติ
ให้ใช้ต้นแบบภาพนิ่งทำสิ่งต่อไปนี้ เพิ่มรูปภาพ เปลี่ยนพื้นหลัง ปรับขนาดของตัวยึด และเปลี่ยนแปลงลักษณะแบบอักษร ขนาด และสี
เมื่อต้องการมีศิลปะหรือข้อความ ตัวอย่างเช่น ชื่อหรือตราบริษัท ปรากฏอยู่บนภาพนิ่งทุกภาพ ให้ใส่ชื่อหรือตราบริษัทนี้ไว้บนต้นแบบภาพนิ่ง วัตถุจะปรากฏบนภาพนิ่งในตำแหน่งเดียวกันกับตำแหน่งที่เป็นอยู่ในต้นแบบภาพนิ่ง เมื่อต้องการเพิ่มข้อความเดียวกันบนภาพนิ่งทุกภาพ ให้เพิ่มข้อความไปยังต้นแบบภาพนิ่งโดยการคลิกปุ่ม กล่องข้อความ บนแถบเครื่องมือ รูปวาด อย่าพิมพ์ในตัวยึดข้อความ หน้าตาของข้อความที่เราเพิ่มเข้าไปด้วยปุ่ม กล่องข้อความ จะไม่ถูกควบคุมโดยต้นแบบ








ต้นแบบชื่อเรื่อง
ถ้าเราต้องการให้ชื่อเรื่องภาพนิ่งของเรามีหน้าตาที่แตกต่างไปจากภาพนิ่งอื่นในงานนำเสนอของเรา เราสามารถเปลี่ยนแปลงต้นแบบชื่อเรื่องได้ ต้นแบบชื่อเรื่องจะมีผลเฉพาะกับภาพนิ่งที่ใช้เค้าโครงของชื่อเรื่องภาพนิ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เพื่อเน้นที่ภาพนิ่งเปิดตัวของแต่ละส่วนในงานนำเสนอ ให้จัดรูปแบบของต้นแบบชื่อเรื่องด้วยหน้าตาที่แตกต่างออกไปและใช้เค้าโครงของชื่อเรื่องภาพนิ่งบนภาพนิ่งเปิดตัวของแต่ละส่วนเหล่านี้ ให้สิ้นสุดการทำงานบนต้นแบบภาพนิ่งก่อนทำการเปลี่ยนแปลงต้นแบบชื่อเรื่อง เพราะว่ารูปแบบข้อความที่ถูกเปลี่ยนแปลงบนต้นแบบภาพนิ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงบนต้นแบบชื่อเรื่องด้วย
ออกแบบแม่แบบและต้นแบบ
ออกแบบแม่แบบแต่ละชิ้นจะมาพร้อมกับต้นแบบภาพนิ่ง องค์ประกอบบนต้นแบบภาพนิ่งจะควบคุมการออกแบบของแม่แบบ แม่แบบจำนวนมากมีต้นแบบชื่อเรื่องแยกต่างหากอีกด้วย เมื่อเรานำออกแบบแม่แบบไปใช้ในงานนำเสนอ PowerPoint จะปรับปรุงลักษณะข้อความและกราฟิกส์บนต้นแบบภาพนิ่งและเปลี่ยนแปลงโครงร่างสีไปยังต้นแบบภาพนิ่งในออกแบบแม่แบบใหม่โดยอัตโนมัติ วัตถุใดๆ ที่เราเพิ่มเข้าไปในต้นแบบภาพนิ่ง เช่น กล่องข้อความ หรือรูปภาพ จะไม่ถูกลบเมื่อเราใช้ออกแบบแม่แบบใหม่




การเปลี่ยนแปลงต้นแบบภาพนิ่ง
ถ้าออกแบบแม่แบบใหม่ ให้ปรับเปลี่ยนสีหรือขนาดของต้นแบบข้อความ หรือเปลี่ยนสีพื้นหลังของต้นแบบภาพนิ่ง ภาพนิ่งทั้งหมดจะสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ถ้าเราเพิ่มกราฟิกไปยังต้นแบบภาพนิ่ง มันจะปรากฏอยู่บนภาพนิ่งทุกภาพ ในทำนองเดียวกันถ้าเราปรับเปลี่ยนเค้าโครงของต้นแบบชื่อเรื่อง ภาพนิ่งที่เราระบุให้เป็นชื่อเรื่องภาพนิ่งจะเปลี่ยนแปลงด้วย
สร้างภาพนิ่งที่แตกต่างจากต้นแบบภาพนิ่ง
ถ้าเราสร้างภาพนิ่งที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาจากการปรับเปลี่ยนภาพนิ่งแต่ละภาพ ภาพนิ่งเหล่านี้จะยังคงรักษาความเป็นหนึ่งเดียวอยู่แม้แต่เมื่อเราเปลี่ยนแปลงต้นแบบหรือใช้ออกแบบแม่แบบใหม่แล้วก็ตาม ถ้าเราเกิดเปลี่ยนใจในภายหลัง เราสามารถที่จะคืนค่ารูปแบบของแม่แบบให้กับภาพนิ่งที่เราเปลี่ยนแปลง ได้เสมอ

ต้นแบบชื่อเรื่อง
ถ้าเราต้องการให้ชื่อเรื่องภาพนิ่งของเรามีหน้าตาที่แตกต่างไปจากภาพนิ่งอื่นในงานนำเสนอของเรา เราสามารถเปลี่ยนแปลงต้นแบบชื่อเรื่องได้ ต้นแบบชื่อเรื่องจะมีผลเฉพาะกับภาพนิ่งที่ใช้เค้าโครงของชื่อเรื่องภาพนิ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เพื่อเน้นที่ภาพนิ่งเปิดตัวของแต่ละส่วนในงานนำเสนอ ให้จัดรูปแบบของต้นแบบชื่อเรื่องด้วยหน้าตาที่แตกต่างออกไปและใช้เค้าโครงของชื่อเรื่องภาพนิ่งบนภาพนิ่งเปิดตัวของแต่ละส่วนเหล่านี้ ให้สิ้นสุดการทำงานบนต้นแบบภาพนิ่งก่อนทำการเปลี่ยนแปลงต้นแบบชื่อเรื่อง เพราะว่ารูปแบบข้อความที่ถูกเปลี่ยนแปลงบนต้นแบบภาพนิ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงบนต้นแบบชื่อเรื่องด้วย
ออกแบบแม่แบบและต้นแบบ
ออกแบบแม่แบบแต่ละชิ้นจะมาพร้อมกับต้นแบบภาพนิ่ง องค์ประกอบบนต้นแบบภาพนิ่งจะควบคุมการออกแบบของแม่แบบ แม่แบบจำนวนมากมีต้นแบบชื่อเรื่องแยกต่างหากอีกด้วย เมื่อเรานำออกแบบแม่แบบไปใช้ในงานนำเสนอ PowerPoint จะปรับปรุงลักษณะข้อความและกราฟิกส์บนต้นแบบภาพนิ่งและเปลี่ยนแปลงโครงร่างสีไปยังต้นแบบภาพนิ่งในออกแบบแม่แบบใหม่โดยอัตโนมัติ วัตถุใดๆ ที่เราเพิ่มเข้าไปในต้นแบบภาพนิ่ง เช่น กล่องข้อความ หรือรูปภาพ จะไม่ถูกลบเมื่อเราใช้ออกแบบแม่แบบใหม่

หน่วยกิตที่3 นำเสนองานด้วยโปรแกรม Microsoft power point

การสร้าง PowerPoint
วิธีการออกแบบและทำให้งานนำเสนอของเรามีรูปแบบเดียวกัน
PowerPoint นั้นออกแบบมาเพื่อให้การนำเสนอภาพนิ่งของเรามีรูปลักษณ์ที่สอดคล้องกัน มีสี่วิธีที่ PowerPoint ช่วยให้เราควบคุมลักษณะของภาพนิ่ง คือ ออกแบบแม่แบบ ต้นแบบ โครงร่างสี และเค้าโครงภาพนิ่ง

ออกแบบแม่แบบ
การออกแบบแม่แบบประกอบด้วยโครงร่างสี ภาพนิ่ง และต้นแบบชื่อเรื่องกับการจัดรูปแบบที่กำหนดเอง (ดูในส่วนถัดไป) และลักษณะแบบอักษร การออกแบบทั้งหมดจะสร้างการมองโดยเฉพาะ เมื่อเราใช้การออกแบบแม่แบบไปยังงานนำเสนอ ต้นแบบภาพนิ่ง ต้นแบบชื่อเรื่อง และโครงร่างสีของแม่แบบตัวใหม่ของเรา ให้แทนที่ต้นแบบภาพนิ่ง ต้นแบบชื่อเรื่อง และโครงร่างสีของงานนำเสนอตัวเก่า หลังจากเราใช้การออกแบบแม่แบบ ภาพนิ่งแต่ละภาพที่เราเพิ่มจะมีการกำหนดลักษณะการมองที่เหมือนกันPowerPoint มาพร้อมกับการออกแบบแม่แบบหลากหลาย นอกจากนี้ เราสามารถสร้างแม่แบบของเราได้เอง ถ้าเราต้องการสร้างการมองแบบพิเศษสำหรับงานนำเสนอของเรา เราสามารถบันทึกงานนำเสนอนี้ให้เป็นแม่แบบได้

ต้นแบบ
ต้นแบบภาพนิ่งจะควบคุมรูปแบบและการจัดวางชื่อเรื่องและข้อความที่เราพิมพ์ในภาพนิ่ง ขณะที่ชื่อเรื่องต้นแบบจะควบคุมรูปแบบภาพนิ่งชื่อเรื่องและภาพนิ่งอื่นๆ ที่เรากำหนดให้เป็นภาพนิ่งชื่อเรื่อง เช่น ตัวเปิดตอนใหม่ ตัวหลักยังเป็นตัวควบคุมรายการพื้นหลัง เช่น กราฟิกที่เราต้องการให้ปรากฏบนทุกภาพนิ่งหรือภาพนิ่งชื่อเรื่อง การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เราทำในภาพนิ่งหลักจะมีผลกับภาพนิ่งแต่ละภาพด้วย ถ้าเราต้องการให้ภาพนิ่งบางภาพแตกต่างจากตัวหลัก เราสามารถทำได้โดยแก้ไข ลงในภาพนิ่งนั้นๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนต้นแบบ ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นแบบภาพนิ่ง

โครงร่างสี
โครงร่างสีเป็นกลุ่มของสีสมดุล 8 สีที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้เป็นสีหลักในการนำเสนอภาพนิ่ง เช่น สำหรับข้อความ พื้นหลัง ตัวเติม การเน้นและอื่นๆ แต่ละสีในโครงร่างสีจะถูกใช้สำหรับองค์ประกอบต่างๆ ของภาพนิ่งโดยอัตโนมัติ เราสามารถเลือกโครงร่างสีสำหรับภาพนิ่งแต่ละภาพ หรือทั้งงานนำเสนอก็ได้ เมื่อเราใช้แม่แบบการออกแบบในการนำเสนอ เราสามารถที่จะเลือกกลุ่มของโครงร่างสีที่ออกแบบไว้แล้วสำหรับแม่แบบการออกแบบนั้น ซึ่งจะเป็นการง่ายในการเปลี่ยนโครงร่างสีในภาพนิ่งแต่ละภาพหรือทั้งงานนำเสนอ และทำให้เราได้ทราบว่าโครงร่างสีใหม่นั้นกลมกลืนกับภาพนิ่งอื่นๆ ทั้งหมดที่อยู่ในงานนำเสนอ ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการทำงานของโครงร่างสีเค้าโครงภาพนิ่ง
เมื่อเราสร้างภาพนิ่งใหม่ เราสามารถเลือกจากเค้าโครงภาพนิ่งที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า 24 แบบ ตัวอย่างเช่น มีเค้าโครงซึ่งมีตัวยึดสำหรับชื่อเรื่อง ข้อความ และแผนภูมิ และมีอีกเค้าโครงหนึ่งซึ่งมีตัวยึดสำหรับชื่อเรื่อง และภาพตัดปะ ตัวยึดของชื่อเรื่อง และข้อความจะมีรูปแบบตามต้นแบบภาพนิ่งสำหรับงานนำเสนอของเรา เราสามารถย้าย ปรับขนาด หรือจัดรูปแบบใหม่ให้กับตัวยึดเพื่อให้แตกต่างจากต้นแบบภาพนิ่ง เรายังสามารถเปลี่ยนเค้าโครงของภาพนิ่งหลังจากที่เราสร้าง เมื่อเราใช้เค้าโครงใหม่ ข้อความและวัตถุทั้งหมดยังคงอยู่บนภาพนิ่ง แต่เราอาจจำเป็นต้องจัดข้อความและวัตถุเหล่านั้นอีกครั้งเพื่อให้พอดีกับเค้าโครงใหม่

หน่วยกิตที่3 นำเสนองานด้วยโปรมแกรม Microsoft power point

ส่วนประกอบของ Microsoft PowerPoint



หมายเลย 1
แถบชื่อเรื่อง (Tltle Bar) แถบแสดงชื่อโปรแกรมและชื่อแฟ้มข้อมูล
หมายเลย 2
แถบเมนู (Manu Bar) แถบรวมคำสั่งที่ใช้งานทั่งหมดในโปรแกรม
หมายเลย 3
แถบเครื่องมือ (Tool Bar) แถบไอคอนคำสั่งที่ใช้งานประจำหรือที่สำคัญใช้งานบ่อยๆ
หมายเลย 4
แถบแสดงสถานะ (Status Bar) แสดงรายละเอียดต่างๆ ในการทำงาน
หมายเลย 5
หน้าการทำงาน
หมายเลย 6
แถบเลื่อน
หมายเลย 7
ปุ่ม ยุบเก็บ ย่อ/ขยาย ปิด

มุมมองต่างๆ ของ PowerPoint



Microsoft PowerPoint มาพร้อมกับมุมมองที่แตกต่างกันเพื่อช่วยเราในขณะสร้างงานนำเสนอ มุมมองสองมุมมองหลักที่เราใช้ใน PowerPoint คือมุมมองปกติและมุมมองตัวเรียงลำดับภาพนิ่ง เมื่อต้องการให้การสลับไปมาระหว่างมุมมองง่าย ให้เราคลิกปุ่มที่หน้าต่างด้านล่างซ้ายของ PowerPoint
มุมมองปกติ



มุมมองเค้าล่าง



มุมมองภาพนิ่ง



มุมมองเรียงลำดับภาพนิ่ง










































































หน่วยกิตที่3 นำเสนองานด้วยโปรมแกรม Microsoft power point

เราสามารถเริ่มต้น MS-PowerPoinได้ด้วยการคลิก Start ชี้ไปที่ Programs ชี้ไปที่ MS-Offic จากนั้นคลิก MS-PowerPoint




จะปรากฎหน้าต่างการทำงาน




ที่มีส่วนประกอบดังนี้
1. Menu bar เป็นที่เก็บคำสั่งทั่วไปในการใช้งาน
2. Title bar แสดงชื่อเอกสารและโปรแกรมที่ใช้งานอยู่
3. Maximize, Minimize, Restore, Close Button ปุ่มขยาย ย่อ คืนขนาด และปิดหน้าต่าง
4. Tool bar แถบเครื่องมือ แถบเก็บคำสั่งที่ใช้งานบ่อยๆ แสดงผลเป็นอคอนหรือรูปภาพ ทำให้เรียกใช้งานได้ง่าย
5. กล่องโต้ตอบ แสดงตัวเลือกในการเริ่มทำงานประกอบด้วย
5.1 ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ จะแสดงตัวช่วยในการสร้างงานทั้งหมด โดยผู้ใช้เลือกจากตัวเลือกที่มีอย
5.2 แม่แบบ แม่แบบประกอบด้วยโครงร่างสี ภาพนิ่ง และต้นแบบชื่อเรื่องกับการจัดรูปแบบที่กำหนดเอง และลักษณะแบบอักษร PowerPoint จะมาพร้อมกับแม่แบบ 2 ชนิดคือ แม่แบบออกแบบและแม่แบบเนื้อหา แม่แบบออกแบบมีรูปแบบและโครงร่างสีให้เลือกก่อนออกแบบบรรจุอยู่ซึ่งเราสามารถนำไปใช้กับงานนำเสนอใดๆ เพื่อทำให้มีหน้าตาจำเพาะได้ ส่วนแม่แบบเนื้อหาจะมีรูปแบบและโครงร่างสีที่คล้ายกับแม่แบบออกแบบ นอกจากนั้นยังมีภาพนิ่งที่มีข้อความคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องที่ระบุรวมไว้อีกด้วย เราสามารถเปลี่ยนแปลงแม่แบบเหล่านี้ให้เหมาะสมตามที่เราต้องการ หรือเราสามารถสร้างแม่แบบขึ้นมาใหม่โดยยึดตามงานนำเสนอที่เราสร้างไว้แล้วก็ได
5.3 งานนำเสนอเปล่า
5.4 เปิดงานนำเสนอที่มีอยู่แล้ว
6. Status bar แถบแสดงสถานะ